หากหลายคนไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้าน ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับบ้านมาทีก็ดึกแสนดึก หุ่นยนต์ดูดฝุ่นดีๆสักตัวอาจจะเป็นคำตอบสำหรับเรื่องนี้ก็ได้ และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่จะมารีวิววันนี้คือตัวนี้เลย Roborock S6 ที่สามารถดูดฝุ่นก็ได้ ถูพื้นก็ได้เช่นกัน
อุปกรณ์ Roborock S6
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks602-1024x683.jpg)
เริ่มต้นแกะกล่องมาก็จะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
– คู่มือใช้งาน
– Roborock S6
– แท่นชาร์จ พร้อมสายไฟ
– ฟิลเตอร์
– ชุดถูพื้น
– แผ่นทำความสะอาด
แท่นชาร์จ
เริ่มที่แท่นชาร์จกันก่อน ด้านหลังจะเป็นตัวเก็บสายชาร์จซึ่งสามารถเก็บสายในตัวได้หากไม่ต้องการให้สายยาวเกินไป แล้วเลือกที่จะม้วนให้ออกจากทางด้านซ้ายหรือด้านขวาของตัวแท่นชาร์จได้ หลังจากนั้นก็ติดตั้งพลาสติกรองให้ตัวหุ่นยนต์สามารถกลับไปชาร์จได้สะดวกและทราบว่าเวลาที่หุ่นยนต์กลับเข้าแท่นชาร์จจะใช้พื้นที่เท่าไหร่
หุ่นยนต์ Roborock S6
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks605-1024x682.jpg)
สำหรับตัว Roborock S6 นั้นทางด้านบนจะสามารถยิงเลเซอร์เพื่อสร้างแผนที่ห้อง กำหนดเส้นทางในการทำความสะอาดได้ แต่หากใช้งานนานขึ้นก็จะใช้เวลาในการทำความสะอาดน้อยลงในพื้นที่เท่าเดิม เพราะ Roborock S6 จะคำนวณพื้นที่การเดินให้เส้นทางสั้นที่สุด และจะไม่มุดเข้าไปหากเจอสิ่งกีดขวางที่มีความสูงไม่พอที่จะเข้าไปทำความสะอาดได้
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks606-1024x683.jpg)
นอกจากนี้ด้านข้างยังมีเซ็นเซอร์กันชนอยู่ข้างตัว ทำให้คอยหลบเลี่ยงการชน และหากชนกับวัตถุใดๆก็จะมีกันชนที่ติดมากับตัวเครื่อง เมื่อชนกับอะไรก็ตามจะคอยมีตัวซับแรงกระแทกและจะถอยออกมาพร้อมเปลี่ยนทิศทางการเดิน
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks607-1024x684.jpg)
นอกจากเซ็นเซอร์กันชนแล้ว ยังมีเซ็นเซอร์กันตกอีกด้วยจะอยู่ใต้ตัวเครื่อง เวลาที่เจอพื้นต่างระดับจะคอยเลี้ยวหลบ แต่บางครั้งที่แดดจัดพอวิ่งไปใต้โซฟาแล้วเจอเงาบางทีก็หลบไม่มุดโซฟาให้เพราะคิดว่าเป็นพื้นต่างระดับซะอย่างนั้น
ส่วนล้อมีสปริงคอยปรับระดับในขณะที่วิ่ง ทำให้สามารถปีนพรมได้อย่างสบาย แต่หากเป็นพรมขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เช่น พรมเช็ดเท้า ก็จะมีปัญหาอยู่สักเล็กน้อย เพราะจะลากพรมไปกับเครื่องด้วย
แปรงปัดจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ปัดฝุ่นข้างเครื่องให้เข้าไปอยู่ใต้เครื่อง จะเป็นแปรงปัดแบบยาง และแปรงกลางเครื่องที่เป็นแท่งมีหน้าที่คอยดึงฝุ่นให้เข้ามาในถังเก็บฝุ่น
ด้านบนของตัวเครื่องเมื่อเปิดขึ้นมาจะพบกับถังเก็บฝุ่นพร้อมแปรงปัดทำความสะอาดที่เก็บอยู่ด้านข้าง ซึ่งมีการใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาก เพราะแปรงตัวนี้นอกจากจะใช้ปัดฝุ่นออกจากถังเก็บฝุ่นและตัวแปรงกลางเครื่องแล้ว ตรงท้ายแปรงจะมีปุ่มแหลมเพื่อใช้กดปุ่ม reset บนตัวเครื่องได้ด้วย ส่วนถังเก็บฝุ่นนั้นสามารถถอดออกมาทิ้งได้ง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่มดันล็อกก็หลุดออกมาจากตัวเครื่อง พร้อมที่จะเทฝุ่นลงถังได้ทันที ตัวฟิลเตอร์ก็สามารถนำไปล้างน้ำทำความสะอาดได้
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks618.jpg)
การถูพื้นจะมีตัวถูพื้นมาให้เลือกใช้ 2 ประเภทคือผ้าถูแบบใช้แล้วทิ้ง และผ้าถูแบบไมโครไฟเบอร์ สามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก ซึ่งการถูพื้อสามารถปรับตรงแทงค์น้ำได้ว่าจะให้น้ำที่ใส่ลงไปในแทงค์ไหลช้าหรือไหลเร็ว จากการใช้งานเลือกไหลช้าก็เพียงพอในการใช้งานแล้ว
เชื่อมต่อ Application “Mi Home”
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks612-514x1024.jpg)
Roborock เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือของ Xiaomi จึงทำให้การเชื่อมต่อ Application ทำได้ด้วย Mi Home นั่นเอง หากใครที่ยังไม่เคยใช้ Mi Home ให้ทำการสมัคร Account ก่อน แล้วทำการเพิ่ม Roborock S6 เข้าไปยัง Mi Home จะทำให้สามารถควบคุมหุ่นยนต์ผ่านทาง Application ได้
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks613-495x1024.jpg)
ทดสอบให้ Roborock S6 วิ่งทำความสะอาด โดยวางของกั้นมุมนึงของตัวห้อง ตัวหุ่นยนต์ก็จะพยายามวิ่งซอกซอนเข้าไปยังมุมเท่าที่ตัวเองจะสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ โดยพื้นที่ทำความสะอาดทั้งหมด 32 ตารางเมตร ใช้เวลา 33 นาที ตกอยู่ที่นาทีละ 1 ตารางเมตร
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือสามารถเลือกโซนได้ว่าโซนไหนที่ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาด เช่น ห้องน้ำ และสามารถตั้งเวลาอัตโนมัติในการทำงานได้ อาจจะให้ทำงานก่อนช่วงเวลาที่กลับถึงบ้าน ทำให้กลับมามีบ้านที่สะอาดพอดี
สามารถกำหนดให้ทำงานในห้องต่างๆ ตามเวลาที่ต้องการได้ เช่น ห้องรับแขกตอน 13:00 น. และห้องนอนตอน 17:00 น.
ประสิทธิภาพและเสียงรบกวน
![](https://www.ibeerboy.com/wp-content/uploads/2020/12/roborocks614-503x1024.jpg)
ในการใช้งานจะมี 4 โหมดให้เลือกใช้งาน โดยยิ่งใช้ประสิทธิภาพในการดูดแรงมากก็จะมีเสียงรบกวนมากตามได้ด้วย หากเรียงจากน้อยไปมากจะสามารถเรียงได้ดังนี้ Quiet(เงียบ), Normal(สมดุลแล้ว), Strong(เทอร์โบ), (Maximum)สูงสุด ซึ่งค่าตั้งต้นจะอยู่ที่ “สมดุลแล้ว” เสียงจะอยู่ในระดับปานกลาง ถ้าเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปจะเบากว่าค่อนข้างเยอะ
การตั้งค่าเสียง
โดยปกติเวลาเวลาที่ Roborock S6 จะทำกิจกรรมใดๆก็จะมีเสียงแจ้งเตือนตลอด ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จ การเริ่มต้นทำงาน การกลับเข้าแท่น หรือแม้กระทั่งเมื่อเราดึงถังเก็บฝุ่นออกมา เราสามารถเปลี่ยนภาษาได้ โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่ง Roborock S6 มีให้เลือกภาษาไทยด้วย
Roborock S6 Specs
- ขนาดตัวเครื่อง 35 x 35 x 9.65 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 3.6 กิโลกรัม
- กล่องเก็บฝุ่น 480 มิลลิลิตร
- กล่องเก็บน้ำ 140 มิลลิลิตร
- กำลังไฟฟ้า 58 วัตต์
- แบตเตอรี่ 14,4V / 5,200 mAh Rechargeable Lithium-Ion Battery
- กำลังดูด 2000 Pa
- เสียงการทำงาน 50 dB
- ใช้โปรเซสเซอร์ Cortex A7 Quad-core 32 bits
- ครอบคลุมพื้นที่บ้านขนาด 250 ตารางเมตร
- สามารถปีนข้ามสิ่งกีดขวางได้ 2 เซนติเมตร
สรุป
- การทำความสะอาดถือว่าน่าพอใจมาก แม้ว่าจะไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับการดูดฝุ่นหรือการถูพื้นด้วยตนเองแล้ว แต่หากให้หุ่นยนต์ทำให้ทุกวันก็ช่วยทุ่นแรงในการทำความสะอาดบ้านไปได้เยอะ
- หากบ้านไหนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงพวกสุนัข หรือแมว จะช่วยได้เยอะมาก เพราะจะช่วยกำจัดขนที่ร่วงอยู่ตามพื้นได้เป็นอย่างดี
- หากบ้านไหนไม่มี internet ก็สามารถสั่งงานได้เช่นกัน เพียงกดปุ่มที่ตัวเครื่องก็จะเริ่มทำงานได้ทันที และสามารถกดปุ่มเพื่อให้ Roborock S6 วิ่งกลับมายังแท่นชาร์จเองได้ด้วย
- หากสนใจสามารถสั่งซื้อได้ทาง Shopee และ Lazada