บินลัดฟ้า มุ่งหน้าสู่กระบี่ ที่เกาะจำรีสอร์ท

ภรรยาของผมได้ซื้อ Package รีสอร์ททะเลทางใต้ของประเทศไว้แห่งนึงครับ เป็นรีสอร์ทที่อยู่ในจังหวัดกระบี่ แต่ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ไม่ได้เดินทางไปอย่างสะดวก อ้าว…แล้วแบบนี้จะไปทำไม เพราะมันต้องมีสิ่งที่พิเศษที่สำคัญกว่าการอยู่ในตัวเมืองและการเดินทางสะดวก สิ่งที่พิเศษนั้นคือธรรมชาติที่เงียบสงบครับ รีสอร์ทที่ว่านั่นคือ “เกาะจำรีสอร์ท”

Package ของเกาะจำรีสอร์ทที่ซื้อมาได้ดังนี้ครับ

– ที่พัก 3 วัน 2 คืน
– อาหาร 5 มื้อ (มื้อเช้า 2 มื้อ กลางวัน 1 มื้อ เย็น 2 มื้อ)
– บริการรับส่งจากสนามบิน/บขส. ถึงรีสอร์ท
– พายเรือคยัก 1 ชั่วโมง
– นวดไทยฟรีคนละ 1 ชั่วโมง
– ดำน้ำแบบ Snorkeling 1 วัน

วันแรก

เกาะจำรีสอร์ท สถานที่ตั้งก็ตามชื่อเลยครับอยู่บนเกาะจำ การเดินทางไปรีสอร์ทจาก Package จะมีรถมารับครับ ในการเดินทางครั้งนี้ผมขึ้นเครื่องบินไปครับ เมื่อถึงสนามบินก็มีรถมารับ แต่เพราะการสื่อสารที่อาจจะไม่ค่อยดี ทำให้ทางรีสอร์ทมารับช้าไป 1 ชั่วโมง!!! โอเคไม่เป็นไร ยังพอมีเวลาเหลือเฟือ เพราะเดินทางมาช่วงเช้ากว่าจะ Check-in ได้ก็บ่ายโมง แต่ก็แอบหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย

เมื่อรถมารับแล้วก็เดินทางไปยังท่าเรือครับ มาถึงจุดนี้มีข้อแนะนำอยู่ 2 ข้อครับ
– เรือไม่ได้มีตลอดทั้งวัน แต่จะมีเป็นช่วงเวลา ให้เช็คเวลาเรือออกจากฝั่งว่ามีเวลาไหนบ้าง จะได้จัดการเรื่องการข้ามเกาะทั้งขาไปและขากลับได้ถูก
– ระหว่างที่เดินทางไปท่าเรือให้แวะ Minimart เพื่อซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ก่อนเข้าไปยังรีสอร์ทครับ เพราะเมื่อเราเข้าไปยังรีสอร์ทแล้วจะแทบจะไม่อยากออกมาจากรีสอร์ท เพราะอะไรเดี๋ยวบอกในย่อหน้าถัดไปครับ

เมื่อเรือมาถึงฝั่งเกาะจำก็จะมีพนักงานมารับจากท่าเรือไปยังรีสอร์ทอีกต่อนึง ทางที่เดินทางไปยังรีสอร์ทในช่วงแรกก็เป็นถนนลาดยางอยู่ครับ แต่พอเลี้ยวเข้ารีสอร์ทปุ๊ป เปลี่ยนเป็นถนนลูกรังในทันที ความยากลำบากในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่อยากออกจากรีสอร์ทเลยครับ แต่ระหว่างทางที่เข้าไปก็เห็นชาวต่างชาติเดินกันชิลล์มาก ชาวต่างชาติทำได้ แต่เรา…ไม่ไหวจริงๆ

เมื่อมาถึงรีสอร์ทก็ได้รับการต้อนรับด้วย Welcome Drink น้ำมะม่วงผสมสับปะรด รู้สึกแปลกๆแต่ก็อร่อยชื่นใจดีครับ หลังจากนั้นก็ทำการ Check-in พร้อมกับเดินเข้าที่พัก

ที่พักที่จองไว้เป็นห้อง Teakwood House ครับ ห้องขนาดกลาง มีอ่างอาบน้ำ มีตู้เย็น แต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรครับ เพราะที่พักเต็มไปด้วยต้นไม้ เพราะทางเข้าก็แทบจะเป็นป่าอยู่แล้ว มีลมพัดอยู่เกือบตลอดเวลา ความชิลล์คือการนั่งริมระเบียงมองทะเล รับลมเย็นๆครับ นั่งไปสักพักหลับได้ง่ายๆเพราะอากาศดีจริงๆ

เวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงช่วงเย็น ก็เป็นอาหารที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ครับ สถานที่ทานอาหารนั้นก็ดีไม่แพ้กัน สามารถนั่งชมวิวดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมทานข้าวไปด้วยได้เลย เพราะสถานที่หันหน้าไปทางตะวันตก ในครั้งแรกเราสองคนก็ไม่รู้หรอกครับว่าอาหารจะเป็นอะไร แต่พอมาเสิร์ฟเท่านั้นแหละ ก็ได้แต่ตื่นเต้นเพราะเป็นอาหารซีฟู้ดที่สดมากๆ และเยอะมากๆ เรียกได้ว่าทานกันจนเหนื่อยเลยครับ

วันที่สอง

อาหารเช้าของที่นี่ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์ครับ แต่เป็นอาการเช้าตามเมนูที่ทางเกาะจำรีสอร์ทได้จัดไว้ให้ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอาหารแบบ American Breakfast , Pancake , ข้าวต้ม หรืออื่นๆ รสชาติและปริมาณกำลังดีเหมาะสำหรับช่วงเช้าครับ

ในวันนี้ตัดสินใจที่จะไปดำน้ำกัน ซึ่งเราสามารถรีเควสได้ว่าอยากจะไปเกาะไหน โดยส่วนตัวแล้วไม่มีความรู้เรื่องเกาะต่างๆหรอกครับว่าเกาะไหนเป็นอย่างไร ก็เลยขอเป็นการดำน้ำที่เป็นธรรมชาติ ไปเกาะที่คนไปไม่ค่อยเยอะมาก ทางรีสอร์ทก็จัดให้ครับ โดยเรือที่พาไปดำน้ำคือเรือหางยาวครับ

ในทริปนี้ได้ไปกับชาวต่างชาติคู่สามีภรรยา 2 คน ครับ เมื่อเรือออกก็วนไปยังรีสอร์ทอีกที่นึงบนเกาะจำไปรับชาวต่างชาติอีกคนนึง ทีแรกก็นึกว่าที่ไปรับจะไปทริปดำน้ำด้วย แต่เปล่าเลยติดเรือไปลงเกาะพีพี เดี๋ยวนะ มีบริการแวะรับส่งระหว่างเกาะบนเรือทริปดำน้ำด้วยหรอเนี่ย

หลังจากส่งผู้โดยสารข้ามเกาะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาของทริปดำน้ำครับ ทริปนี้ไปทั้งหมด 4 ที่ครับ ได้แก่ พีพีเล เกาะยูง เกาะลิง และ เกาะไผ่ แต่ละที่ก็เป็นที่เงียบสงบดีครับ พอมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไป แต่แอบมาเสียบรรยากาศช่วงเกาะลิงนี่แหละครับ เกาะลิงเป็นเกาะที่หาดทรายสวย น้ำใส แต่มีลิงอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราไม่ได้ไปยุ่งกับเค้า เค้าก็ไม่มายุ่งกับเรา และบนเกาะก็มีป้ายห้ามให้อาหารลิง โอเค เราก็ทำตามกฎนั้น แต่พอขึ้นเกาะมาได้ไม่นานก็มีเรือของกลุ่มชาวต่างชาติอีกกลุ่มนึงมาประมาณสิบกว่าคน หลังจากที่ชาวต่างชาติกลุ่มนั้นลงมาบนเกาะก็ทำการให้แตงโมที่ถืออยู่ในมือกับลิง ทีนี้แหละครับความวุ่นวายก็เกิดขึ้นลิงมาจากในป่าฝูงใหญ่ พร้อมก่อความวุ่นวายเพราะคิดว่าทุกอย่างที่อยู่ในมือคนสามารถเอาไปได้ทุกอย่าง ขวดน้ำเอย กระเป๋าเลย ลิงพร้อมที่จะเอาไปตลอดเวลา นึกว่าอยู่ใน Planet of the Apes ทำให้ทุกคนต้องลี้ภัยกลับมาบนเรือ จนไม่มีใครที่มีอารมณ์จะอยู่บนเกาะลิงอีกแล้ว จนต้องออกเรือไปยังเกาะอื่นต่อไป เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวตามเกาะต่างๆก็โปรดอยู่ห่างชาวต่างชาติประเทศที่ไม่ค่อยฟังใคร

หลังจากที่ดำน้ำเสร็จ เรือมาส่งที่เกาะ อย่างตรงเวลา ก็มีเวลามาทำความสะอาดร่างกาย และเอนหลังอีกนิดหน่อยก่อนที่จะถึงเวลาอาหารเย็น ซึ่งเดาได้เลยว่ามาแบบเยอะอีกตามเคย ครั้งนี้เลยชวนคู่สามีภรรยาชาวต่างชาติที่ได้ไปร่วมทริปดำน้ำและหนีลิงมาร่วม Dinner กับเราด้วย มื้อนี้อาหารที่นำมาเสิร์ฟเป็นอาหารไทย ได้แก่ แกงส้ม ปลากระพงทอดน้ำปลา ยำทะเล และปูผัดผงกะหรี่ โดยที่แขกที่มาร่วมโต๊ะก็สั่งกับข้าวมาทานเพิ่มอีกนิดหน่อย สรุปแล้วมื้อนี้เรียกได้ว่าอาหารจาก Package ที่ได้มา บวกกับกับข้างที่สั่งเพิ่ม 1 อย่าง ทานกันจนเหนื่อยอยู่ดี

วันที่สาม

เป็นวันสุดท้ายของ Package ที่จองมา ทั้งที่ควรจะกลับได้แล้ว แต่ก็ยังไม่กลับครับจองที่พักเพิ่มอีก 1 วัน แต่คราวนี้ย้ายห้อง มาเป็นห้อง Teakwood Villa ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า บรรยากาศดีกว่า และสามารถเดินจากที่ห้องลงไปที่ชายหาดได้เลย แต่ก็ยังเป็นห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศอยู่เช่นเคย

จากใน Package นั้นยังเหลือนวดไทยอีกคนละ 1 ชั่วโมง ที่นวดของทางรีสอร์ทอยู่ที่ริมทะเลเลยครับ เราสามารถนอนนวดไป ดูทะเล ฟังเสียงคลื่นไปด้วยได้อย่างสบายๆ แต่ก็จะดูทะเลได้ไม่นานหรอกครับ เพราะมันสบายจริงๆ สบายจนแทบเคลิ้มหลับไปเลย

อาหารมื้อเย็นในวันนี้เป็นอาหารนอกเมนูครับ มากระบี่ทั้งทีก็อยากจะทานอาหารทะเลแบบพื้นเมืองสดๆ ทางร้านช่วยจัดหามาให้ครับ เป็นอาหารทะเลแบบท้องถิ่นนั่นคือ หอยชักตีน กุ้งลายเสือ และ ปูม้า ซึ่งเราสามารถบอกกับทางร้านได้ว่าวัตถุดิบที่เราสั่งมาจะให้มาปรุงแบบไหน โดยทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะให้ทานรีสอร์ทตั้งโต๊ะดินเดอร์ริมชายหาดครับ เพื่อความโรแมนติก สรุปฝนตกแผนนั้นโดนยกเลิกไป มานั่งทานอาหารทะเลด้านในแทน แต่ก็ดีแล้วครับดินเนอร์ริมชายหาด แต่มือแกะกุ้งแกะปูแงะหอยคงดูไม่ค่อยเข้ากัน ฮา

วันที่สี่

แล้วก็มาถึงวันที่ต้องกลับเสียที แอบเสียดายบรรยากาศแบบนี้อยู่เหมือนกันครับ อยู่ริมทะเลแบบเงียบสงบ บรรยากาศดีๆ มองวิวฟังเสียงคลื่น ทางรีสอร์ทก็มีบริการส่งถึงสนามบินเช่นเคยครับ นั่งรถมาต่อเรือเพื่อข้ามเกาะ แล้วก็ขึ้นรถอีกทีไปถึงสนามบินครับ แต่ระหว่างที่ไปสนามบินก็ให้เจ้าหน้าที่พาแวะทานอาหารเที่ยงก่อนที่จะขึ้นเครื่องแบบที่เหมาะสมกับเวลาที่เหลือก่อนที่จะต้องเช็คอินครับ

สรุปแล้วฟินมากครับ แม้ว่าจะมีเรื่องติดขัดบ้างเล็กน้อยในวันแรกๆ แต่ก็รู้สึกมีความสุขควรค่าแก่คำว่า “มาพักผ่อน” จริงๆ

เกาะจำรีสอร์ท 
Website http://www.kohjumresort.com/
Facebook Fanpage https://www.facebook.com/kohjumresort/