Samart Strong Set-top Box

ในยุคที่ดิจิตอลทีวีกำลังมา ซึ่งในช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงทดลองออกอากาศ ใครยังไม่รู้ว่าทีวีดิจิตอลคืออะไรก็ลองไป Search Google แล้วกันครับ หลายที่คงอธิบายไว้เยอะแล้ว ประเด็นคือ ขี้เกียจพิมพ์ มันยาวมาก ฮา และในตอนนี้หลายๆช่องก็ออนแอร์กันแล้ว ส่วนผมก็อยากจะดูสิครับ แหม่ คนทำรายการโทรทัศน์ จะไม่ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับช่องที่มาใหม่ได้ยังไง แต่เครื่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีก็มีเยอะเหลือเกิน แทบเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี

แต่ที่มองๆไป มองๆมา รุ่นที่ถูกขายกันอย่างทั่วไปก็คือตัวนี้ครับ Samart Strong แต่พอดีที่บ้านไม่มีตัวรับสัญญาณอย่างเสาหนวดกุ้งหรือเสาก้างปลา ก็เลยซื้อพ่วงมาด้วยเลย ได้เสาหนวดกุ้งหน้าตาประหลาดมาอีกหนึ่งครับ

มาดูที่ตัวเสารับสัญญาณกันก่อนครับ ที่ผมซื้อมานั้นก็เป็นของ Samart เหมือนกัน อารมณ์เหมือนเสาหนวดกุ้ง แต่หน้าตาของมันเป็นแท่งใหญ่ๆครับ ข้อดีของมันคือไม่ต้องหมุนรับสัญญาณ ไม่ต้องบิดจูน ไม่ต้องยืดเสาออกมาสูงๆให้เกะกะ แต่ข้อเสียคือใหญ่มาก แถมวางไว้นึกว่าเครื่องฟอกอากาศอีกต่างหาก ดูอวกาศมาก

ต่อมาพระเอกของเราคือตัว Set-Top Box นี่แหละครับ พอมาเทียบกับไอ้ตัวเครื่องฟอกอากาศจับสัญญาณแล้ว ตัวเล็กนิดเดียวเอง แถมสาย RCA , HDMI , รีโมทหน้าตาไร้ดีไซด์ , สายไฟ และคู่มือการใช้งานพ่วงใบประกันมาด้วยครับ

นี่ครับ เมื่อวางเทียบกัน คนละขนาดกันเลย แถมดูแล้วอวกาศมาก แนะนำให้ลองวางเสาอากาศหลายๆที่นะครับ เพราะบางจุดที่เราวางมันก็จูนหาบางช่องไม่เจอ หรือเจอแล้วดูกระตุก คือดิจิตอลเนี่ยมันไม่มีมาซงมาซ่าอะไรนะครับ คือมีแค่เจอ ไม่เจอ หรือเจอแล้วกระตุก แค่นั้นเอง จากหลายๆปัจจัยครับ ความแรงของสัญญาณ หรือละแวกบ้านมีอะไรมาบังสัญญาณรึเปล่า เหมือนทั่วๆไปนั่นแหละ

เมื่อเราเปิดใช้งานครั้งแรก ก็ให้จูนช่องกันเลยครับ ก็กด OK ตามกระแสนิยมไป เหมือนตอนลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์เลย เอะอะ OK หรือ Next ไปเรื่อยๆนั่นแหละ
พอเครื่องทำการสแกนช่องเสร็จ ก็ดูได้ทันที เวรี่ง่าย แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
สิ่งที่ผมชอบมากกับตัวนี้คือสามารถดูผังรายการได้ยาวๆเลยครับ เอ่อ…ถ้าช่องนั้นปล่อยผังมาแล้วนะ
แต่ UI ของกล่องนี้หน้าตาค่อนข้างบ้านเอามากๆครับ นี่เลยเบสิคยังกับยุค Windows 3.11 แต่มีให้ปรับอะไรเยอะมาก สามารถตั้งค่าหน้าจอโทรทัศน์ได้ ตั้งค่าภาษา ตั้งเวลาปิดเครื่อง…คือก็ปิดแค่กล่องปะ ทีวีก็เปิดไว้เหมือนเดิม – -“
ด้านหลังก็มีหน้าตาแบบนี้ครับ ช่องเสาอากาศ , พ่วงเครื่อง , ช่องสัญาณเสียง , RCA , HDMI ส่วนด้านข้างเครื่องก็มีช่องเอาไว้เสียบปลั๊ก แล้วก็ USB
เมื่อมีช่องเสียบ USB มันสามารถกลายร่างเป็นตัว Media Player ได้ครับ นี่แหนะ เจ๋งขนาดไหน เสียบ Thumbsdrive หรือ External HDD แล้วสามารถดูหนังฟังเพลงได้เลย Subtitle ก็อ่านได้(บ้าง ไม่ได้บ้าง)
ช่อง USB แบบมัลติฟังก์ชั่นครับ เพราะเมื่อเราใช้งาน ก็สามารถบันทึกรายการโทรทัศน์ที่เราดูได้ด้วย นี่แหน่ะ

กล่องนี้ราคาพันกว่าครับ ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากทีเดียว แต่รออีกสักนิด กสทช ก็คงแจกคูปองเอามาแลกตัว Set-top Box กัน แต่ถ้าไม่อยากรอนาน อยากดูเร็วๆก็ซื้อดูก็ได้ครับ ซื้อก่อนมีสิทธิ์ดูก่อน แค่นั้นแหละ